3 days
12,000฿
08.00 เช้าวันสดใส เดินทางไป Airport แบบอินเทรนด์โดย Airport City Link หรือ รถยนต์ส่วนตัว หรือ ใช้บริการรถลีมูซีนหรือแท๊กซี่ของค่ายต่างๆ สู่สนามบินสุวรรณภูมิ Check in ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ R แถว 1-3 สายการบินลาวแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QV 634 สู่ เมืองหลวงพระบาง
10.20 เหินฟ้าออก จากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินลาวแอร์ไลน์ พร้อมเครื่อง ATR 70 ที่นั่ง มาตรฐาน ความปลอดภัยสูง พร้อมการบริการบนเครื่อง สบายดีการบินลาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชม.40นาที อาหารว่าง (กล่องนะจ๊ะ แต่ก็อร่อยแบบลาวโซ ครับผม)
12.00 เดินทางถึง สนามบินแห่งชาติหลวงพระบาง (สมกับเป็นสนามบินเมืองมรดกโลก ไม่ซับซ้อนเดินสบายมาก) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ไม่ต้องทำวีซ่าสำหรับพาสปรอตไทย (ง่ายๆ ครับ) ค่าวีซ่าของชาวต่างชาติบางประเทศ (30-40 USD) เตรียมรูปถ่าย 2 X 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 1 ใบ
12.15 เจ้าหน้าที่ Santi Resort & Spa รอถือป้าย “ Journey Laos ” ให้การบริการด้านหน้า พร้อมรถเดินทาง เพื่อนำท่านเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง ที่ล้อมรอบไปด้วย สายน้ำคาน และ สายน้ำโขง ที่ไหลรวมมาบรรจบกัน นำท่านเข้าสู่ห้องอาหาร เจ้าหญิง Princes Restaurant อดีตพระตำหนักแห่งพระวรชายา เจ้ารัชทายาท ด้วยอาหารท้องถิ่นชาวลาว ส้มตำลาว ข้าวเหนียวไก่ทอด เฝอน้ำลาว รสชาติแบบปังๆ โดนใจ ทุกวัย
14.00 หลังอาหารกลางวัน นำท่านเดินทางต่อจากพระตำหนัก ไปยังพระราชวังหลวงแห่งเจ้ามหาชีวิต ที่เคยเสด็จประทับ ณ ที่นี้ ก่อนสิ้นพระชนม์ และ เปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งปัจจุบันได้มอบให้เป็น พิพิธภัณท์พระราชวัง ที่ยังคงเก็บรักษา เครื่องราชกุฎภัณฑ์ ของใช้ส่วนพระองค์ จัดแสดงไว้อย่างสวยงาม ภายในพระราชวัง ท่านจะได้นมัสการ องค์พระบาง พระพุทธรูปศูนย์รวมจิตใจแห่งชาวลาว ที่ประดิษฐาน ไว้ ณ หอพระบาง
15.30 เดินสบายๆจากท้ายวัง ลัดเข้าประตู วัดคู่บ้านเมือง วัดใหม่สุวรรณภูมาราม ซึ่งเคยเป็นที่พระทับของพระสังฆราชา แห่ง ราชอาณาจักรลาว มีศิลปลวดลายของโบสถ์ที่งดงาม และ องค์พระพุทธรูป แบบสุโขทัย ประดิษฐาณอยู่ภายในพระอุโบสถ ที่พระพักต์อิ่มเอิบ ส่งรอยยิ้มเมตตา ให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน
16.30 ได้เวลาอันสมควร นำท่านมายังถนนหน้าวัง เพื่อเดินทางขึ้นสู่พระธาตุภูสี ที่กล่าวกันว่า ถ้าไม่ได้ขึ้นไป เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง ด้วยบันได 338 ขั้น ที่ทอดยาว เป็นระยะๆแบบเดินสบาย และ อากาศที่เย็นสบายๆ จะทำให้ท่านเพลิดเพลิน ไม่เหนื่อยล้า และชมวิวความงดงามในแต่ละมุม ที่มองลงมา ณ บนยอดภู จะเป็นที่ตั้งแห่งองค์พระธาตุ ที่เคารพนับถือกันมานานกว่า 200ปี และนอกจากนั้น ณ ที่นี้ ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยว นิยมขึ้นมาชมแสงสุดท้ายแห่งวัน ที่งดงาม ยามลับเหลี่ยมขุนเขา
18.30 อาหารค่ำ นำท่านเดินทางกลับมาที่ พระตำหนัก ณ ห้องอาหารเจ้าหญิง ที่รอให้บริการ อาหารแบบชาววัง ดั้งเดิน พร้อมการแสดง แบบศิลปผสมผสาน ชนเผ่าลาว
20.00 ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทาง เข้าสู่ที่พัก เพียง 15 นาที ก็ถึงอลังการณ์รีสอร์ท สันติรีสอร์ท แอนด์ สปา เชิงน้ำตกบ้านนาเดือย ที่มีสายน้ำไหลลัดเลาะผ่านอาคารที่พัก รูปแบบสถาปัตยกรรม ลาว ผสม ฝรั่งเศส (โคโรเนียนสไตล์)
บริการฟรี ! FREE WIFI ภายในห้องพักและบริเวณทั่วไปของรีสอร์ท Santi Resort & Spa
05.15 ปลุกท่านตื่น รับอากาศเย็นยามเช้ากับสายหมอกที่โรยตัวภายในรีสอร์ท เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสประกอบกิจกุศล ตักบาตรข้าวเหนียว ประเพณีโบราณที่สืบทอดมากว่า 200ปี จนถึงปัจุบัน ที่ยังคงรักษาเอกลักษ์แห่ง เมืองล้านช้าง
05.45 นำท่านเดินทางไปยังถนนสัการินท์(ถนนข้าวเหนียว) บริเวณด้าหน้า พระตำหนักเก่า (วิลล่าสันติโฮเตล) ซึ้งณ ที่นี้นั้น ทางโรงแรมได้จัดสถานที่ พร้อมอาหารตามประเพณี ให้ท่านได้ร่วมใส่บาตร กับพระ เณร มากกว่า 100องค์ ในแต่ละวัน (ไม่แนะนำให้ใส่อาหารอย่างอื่นลงในบาตร นอกจาก ข้าวเหนียว หรือหากต้องการทำบุญด้วยธนบัติ กรุณาใส่ซองพลาสติกหรือซองกระดาษ ก่อนใส่ลงในบาตร เพื่อไม่ให้ปนเปื้อนกับข้าวเหนียวในบาตร )
หลังตักบาตร นำท่านไปยังตลาดเช้า เรือเมล์ริมแม่น้ำโขง ตลาดโบราณของชาวหลวงพระบาง ที่จะมีสินค้าสด ของพื้นบ้าน ของชาวเขา อาหารสำเร็จรูปให้ทดลองชิมทาน หลากหลายวิถีบนเส้นทางตลาดแห่งนี้ ที่สอาดสอ้าน เดินได้อย่างสบายใจ หรือจะแวะจิบกาแฟประชานิยม พร้อม ข้าวจี่แซนวิส อาหารเช้าชาวลาว ผสมผสาน ความเป็นฝรั่งเศส ที่น่าเอร็ดอร่อย แต่แคโรรี่สูง ปรี๋ดๆๆ ที่ช่วยเติมพลังให้ท่านได้ตลอดทั้งวัน
07.30 เดินทางกลับมาทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท กับ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า หลากหลายสไตล์ ลาว +ฝรั่ง
08.30
หลังอาหารเช้านัดพร้อมกันเพื่ออกเดินทางจากรีสอร์ท เข้าสู่ในเมืองอีกครั้ง นำท่านเข้าชม สถานที่สำคัญของเมือง ที่ประวัติความเป็นมายาวนาน ตำนานร้อยเล่ม เล่าสืบทอดกันมา
วัดพระธาตุหมากโม หรือ วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
พระประธาน หรือพระองค์หลวงในพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริด พวกไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก
วัดเซียงทอง วัดสวยงามที่สุด ที่พลาดไม่ได้ ชมพระม่าน ในโบสถ์เล็ก (จะมีช่องเล็ก ๆ ให้ทุกคน หลี่ตาข้างหนึ่งจึงจะเห็น) พระม่าน หนึ่งปีจะอันเชิญ แห่รอบเมืองหลวงพระบาง ในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ลาว เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาอย่างใกล้ชิด หากยังไม่จุใจ ไปอุ้มพระเสี่ยงทาย อยู่ใกล้ ๆ หอพระม่าน ก็ลองอธิฐานเสี่ยงทายกันดูนะเด้อ หลายท่านพิสูจน์แล้วคจร้า ว่าแม่นจริงๆ ไม่เชื่อลองตั้งใจ พิสูจน์ได้ด้วยตัวของท่านเองครับ หากไม่มีสมาธิพอ เวลาเหลือช่วงเย็นอาจจะแอบมาลองยกเองอีกรอบก็ทำได้ด้วยตัวเอง
จากท่าเรือวัดเซียงทอง นำท่านข้ามเรือโดยแพขนานยนต์ หรือ เรือ หางยาวใหญ่ ข้ามแม่น้ำโขงตัดแม่น้ำคาน เพื่อไปขึ้น ณ ท่าบ้านเซียงม่วน เขต เมืองโบราณ จอมเพชร ที่เคยรุ่งเรืองมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ลาว มานานนับ 500 ปี
วัดเซียงแมน ไชยะเสดถาราม สร้างโดยวีรกษัตรย์มหาราชแห่งอดีตราชอาณาจักรลาว เป็นกษัติยร์ที่ชาวลาวเคารพนับถือ และเป็นผู้ที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองในเมืองหลวงพระบาง วัดแห่งนี้มีรูปปั้นสถาปัตยกรรมบาณสัตว์ในตำนานนิยายพื้นบ้าน อาทิ ตัวมอม ที่ผสมระหว่าง สิงห์และ มังกร และ มอม ที่ไม่น่าพลาดคือ สัตว์ที่เป็นสิงห์ผสมหมา ที่ประวัติน่าสนใจ
วัดล่องคุณ วัดมงคลที่ห้ามพลาด เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดเซียงทอง วัดล่องคุณ เป็นวัดที่ในอดีต ผู้ที่จะขึ้นครองบัลลังค์เป็นเจ้ามหาชีวิตทุกพระองค์ จะต้องเดินทางไปสักการะ ณ พระวิหารแห่งนี้ ก่อนการขึ้นครองราชย์ ในอดีตที่ผ่ามา ในความเชื่อเรื่องเพทยาดาที่ปกปักรักษา ( หากมีเวลาห้ามพลาด ถ้ำคูหาสักกะลินอยู่ติดกับวัดล่องคูณ ภายในถ้ำจะมีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งภายในถ้ำจะมีหินงอกและหินย้อยตามธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนเข้าถ้ำอย่าลืมเตรียมไฟฉายมาด้วยนะเด้อ )
จากนั้นนำท่านขึ้นชวิว วัดจอมเพชรปัจจุบันเป็นวัดร้าง ไม่ทราบที่มาและประวัติชัดเจน มีสิ่งก่อสร้างที่ยังมีรูปร่างชัดเจนเพียงอุโบสถหลังเล็กและพระพุทธรูปก้นหอยสององค์ที่อยู่ด้านหลัง ทั้งหมดอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม ลวดลายประดับหลุดออกเกือบหมด นอกนั้นเป็นร่องรอยของพื้นอิฐโปกปูนและเสาที่อยู่ด้านหน้าและด้านข้างพระอุโบสถ จุดเด่นของวัดร้างแห่งนี้คือ เป็นจุดสำหรับใช้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองได้รอบตัวโดยเฉพาะฝั่งตัวเมืองหลวงพระบางซึ่งตั้งขนานไปตามลำแม่น้ำโขงยาวหลายกิโลเมตร ท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อนเบื้องหลัง ทางฝั่งซ้ายสามารถมองเห็นปากแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ส่วนทางฝั่งขวามองเห็นคุ้งน้ำไหลลัดเลาะเข้าสู่หุบเขา
จากนั้นเดินทางข้ามเรือข้ามฝากกลับมายัง ฝั่งเมืองหลวงพระบาง เพื่อเดินทางต่อไปยังย่านบ้านเจ๊ก อาคารทรงโคโรเนียน ย่านการค้า China town โบราณ ที่งดงามไปด้วยตึกเก่าคลาสสิค ซี่งในปัจจุบัน ได้แปลงสภาพเป็นร้านอาหาร ภัตตาคาร เท่ห์ๆ หรือร้านกาแฟ บนนถนนสายสำคัญแห่งนี้
12.30 เดินทางกลับเข้าสู้ รีสอร์ท
14.00 หลังอาหารกลางวัน อิสระ ตามอัธยาศัย ครึ่งวันนี้ ท่านสามารเลือกเดินเล่นในรีสอร์ทสวยๆๆ แชะแชร์ สารพัดมุมโปรดลงโซเชียล โชว์ความงาม Selfie ฤดุหนาวที่หลวงพระบาง หรือ ซื้อ Option เสริมเพิ่มเติม
Option เสริม
ทัวร์ครึ่งวัน น้ำตกกวางซี มรกตแห่งหลวงพระบาง ราคา ท่านละ 650 บาท เดินทางโดยรถตู้ ปรับอากาศ พบกับสระน้ำมรกต อันสวยงามมหัศจรรย์ แห่งเมืองหลวงพระบาง น้ำตกกวางสี หรือ น้ำตกกวางซี เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของหลวงพระบาง น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่นอกเมืองหลวงพระบางไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร
ทัวร์ครึ่งวัน ถ้ำติ่ง Pak Ue Cave ราคา ท่านละ 750 บาท เดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ และ ลงเรือหางยาว ข้ามแม่น้ำโขง พร้อมชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งโขง มีเสื้อชูชีพให้พร้อม ถ้ำติ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองราวๆ 25 กิโลเมตร ถ้ำแบ่งออกเป็น 2 ถ้ำคือ ถ้ำติ่งล่าง และถ้ำติ่งบน เมื่อเข้าไปในถ้ำจะเห็นพระพุทธรูปเป็นพันๆ องค์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบางและเป็นสถานที่ไหว้ ฟ้าดิน แห่งราชวงศ์ลาวในอดีตระหว่างการเดินทาง แวะชมโรงต้มเหล้า แบบพื้นบ้าน เหล้าสมุนไพร ยาดองแบบโบราณ ที่มีกลิ่นหอมจนล่าลิ้มลอง
หรือ เลือกเช่าจักยาน ปั่นชมเมืองถ่ายรูป ในมุมมองพิเศษที่คุณชอบ สอบถามรายละเอียดได้ที่ แผนกต้อนรับ
18.00 ช่วงเย็น นำท่านโดยสารรถชัตเติ้ลบัสของโรงแรม เข้าสู่ตัวเมือง ให้ท่านอิสระกับการเดินที่ตลาดมืด หรือ ริมโขง ริมคาน เลือกร้านอาหารคลาสสิคสุดเท่ห์ ในฤดูหนาว มีให้เลือกหลากหลาย ลาว ,ฝรั่งเศส หรือ อิตาเลี่ยน แต่ No ไทยฟู๊ด อย่างไรบ้านเราก็อร่อยเริดประเสริฐกว่ามากที่สุด
22.00 รถชัตเติ้ลบัสเที่ยวสุดท้าย จะออกจากด้านหน้า วิลล่าสันติโฮเตล เที่ยว 21.00น. และ สุด ท้าย 22.00น. เพื่อเดินทางกลับสู่รีสอร์ท
05.00 ปลุกตื่นเช้ามืดรับอากาศสดใส เตรียมตัว เช็คเอาท์ จากโรงแรม
06.30 รถ Shuttle Bus รอรับท่านเดินทางไปยัง สนามบิน แห่งชาติหลวงพระบาง เพื่อเช็คอินท์เที่ยวบิน QV 633 to BKK ( ทางรีสอร์ทจะจัดทำ อาหารเช้ากล่อง ให้ท่าน สามารถนำไปทานพร้อมกับ อาหารที่สายการบินบริการบนเครื่อง ขณะเดินทางกลับได้ )
08.00 สายการบินลาว นำคุณเหินฟ้า ข้ามแม่น้ำโขง ผ่านเชียงใหม่ มุ่งสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ บริการอาหารว่าง บนเครื่อง
09.00 Arrival to Suvarnabhumi International Airport โดยสวัสดิภาพ พร้อมความสุขและความทรงจำ กาลครั้งหนึ่ง ที่หลวงพระบาง สบายดีหลวงพระบาง
อัตราค่าบริการ แพ็คเกจนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
การสำรองที่นั่ง และ เงื่อนไขการจอง
การยกเลิกการจอง หรือ ยกเลิกการเดินทาง (เป็นการเดินทางที่ต้องซื้อขาดแบบมีเงื่อนไขกับทางสายการบิน หรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ รวมทั้งการการันตีค่าห้องพัก การการันตีแพ็กเกตททัวร์ จะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าบริการทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดใด)
การขอวีซ่าเข้าลาว (เฉพาะต่างชาติ)
1. สถานทูตลาวที่กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ซอยสหการประมูล ถนนประชาสงเคราะห์
2. สถานกงสุลลาว จ. ขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ถนนประชาสโมสร ก่อนถึงแยกชาตะผดุง 100 เมตร
3. Visa on Arrival คนต่างชาติไปทำวีซ่าที่ด่านตม. ลาวตรงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเข้าลาว (Visa on Arrival)
1. หนังสือเดินทางตัวจริง ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และต้องมีหน้าว่างสำหรับประทับตราวีซ่า
2. กรอกแบบฟอร์ม มีบริการให้ที่ด่านตม.ลาว หรือ ดาวน์โหลด
3. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
4. ค่าธรรมเนียมวีซ่า
ค่าธรรมเนียมวีซ่า (Visa on Arrival Fee) |
ประเทศ | ค่าธรรมเนียม (US Dollar) |
จีน | 20 |
ออสเตรเลีย | 30 |
สวีเดน | 31 |
อินเดีย | 35 |
อังกฤษ | 35 |
สหรัฐอเมริกา | 40 |
แคนาดา | 42 |
อื่นๆ | 30 |
สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของประเทศลาวแบ่งออกได้ 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน ฤดูฝน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาว เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมกราคม ซึ่งมีความคล้ายกับภาคเหนือและภาคอีสานของไทย แต่ฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวมากกว่า พื้นที่ทางภาคใต้และทางตอนกลางของประเทศ เป็นบริเวณที่มีฝนตกชุกมากกว่าภาคเหนือ ประกอบกับที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมในทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศลาวมีลักษณะทางภูมิอากาศแบ่งออกได้ 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน ฤดูฝน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาว เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมกราคม
เวลา
เวลาในประเทศลาวเป็น 7 ชั่วโมงล่วงหน้าเฉลี่ยเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT +7).
เงินตรา
สกุลเงินของประเทศลาวคือ กีบ สำหรับเงินกีบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศลาวส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นใบละ 1,000 2,000 5,000 10,000 20,000 กีบ (ไม่มีเงินในลักษณะเหรียญกษาปณ์) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 บาท เท่ากับ 0.0044 LAK
ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟของลาวเหมือนเมืองไทย การไปลาวจึงไม่ต้องพกตัวแปลงปลั๊กไฟไปเลย แต่หากเที่ยวออกไปทางเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญออกไป ไฟฟ้าอาจไม่ได้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
การให้ทิป
การ ให้ทิปในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญและมารยาทของนักท่องเที่ยวที่ควรให้ ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนายความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
ภาษา
ลาว มีภาษาประจำชาติคือ ภาษาลาว ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาไทยในแถวๆภาคอีสานของบ้านเรา นอกจากนี้ ชาวลาวบางส่วนยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้ดี สำหรับชาวลาวที่อาศัยทางตอนเหนือของประเทศ มีสำเนียงการพูด และ ความหมายของคำบางคำคล้ายคลึงกับภาษาพื้นเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และเลย ทางตอนเหนือของประเทศไทยอีกด้วย
ข้อตกลงและเงื่อนไขการเดินทางท่องเที่ยวกับเรา
ผู้ร่วมเดินทางตกลงปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการเดินทางนี้ทุกประการ
และในกรณีมีข้อพิพาท ให้ถือคำตัดสินของผู้จัดเป็นที่สิ้นสุด
ในการสำรองที่นั่งและการใส่ชื่อในระบบสำรองที่นั่ง
ผู้ เดินทางต้องส่งสำเนาของหนังสือเดินทาง ( Passport ) ที่ชัดเจน หรือ ส่งรายละะรายละเอียดที่สายการบินต้องการ (ภาษาอังกฤษ) เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่พาสปรอต วันหมดอายุ ( โดยเซ็นต์ชื่อและเขียนยืนยันรับรองเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทางผู้จัด ) หากไม่มีการส่งข้อมูลทั้งหมดในพาสปรอตเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทางผู้จัด และเกิดการออกชื่อนามสกุลในตั๋วหรือบัตรโดยสารผิดพลาด อาจมีผลให้ผู้โดยสายจะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายใหม่ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด และสายการบินไม่มีระบบเสียค่าใช้จ่ายเพื่อแก้ไขตัวสะกดคำนำหน้าชื่อ / ชื่อ / นามสกุล หรือ การเปลี่ยนชื่อผู้เดินทาง
Copyright by Journeylaos.com - All Rights Reserved