08.00 เช้าวันสดใส เดินทางไป  Airport แบบอินเทรนด์โดย Airport City Link หรือ รถยนต์ส่วนตัว หรือ ใช้บริการรถลีมูซีนหรือแท๊กซี่ของค่ายต่างๆ  สู่สนามบินสุวรรณภูมิ   Check in ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ W แถว W10-12 สายการบินลาวแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QV 634 สู่ เมืองหลวงพระบาง

10.20 เหินฟ้าออก จากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินลาวแอร์ พร้อมเครื่อง ATR 70 ที่นั่ง มาตรฐาน ความปลอดภัยสูง พร้อมการบริการบนเครื่อง สบายดีการบินลาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชม.40นาที อาหารว่าง (กล่องนะจ๊ะ แต่ก็อร่อยแบบลาวโซ ครับผม)

12.00 เดินทางถึง สนามบินแห่งชาติหลวงพระบาง (สมกับเป็นสนามบินเมืองมรดกโลก ไม่ซับซ้อนเดินสบายมาก) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ไม่ต้องทำวีซ่าสำหรับพาสปรอตไทย (ง่ายๆ ครับ)  ค่าวีซ่าของชาวต่างชาติบางประเทศ (30-40 USD) เตรียมรูปถ่าย 2 X 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 1 ใบ

12.15เจ้าหน้าที่ Santi Resort & Spa รอถือป้าย “ Journey Laos ” ให้การบริการด้านหน้า พร้อมรถเดินทาง เพื่อนำท่านไปเช็คอิน ยังโรงแรม สัมผัสความพอเพียงของเมืองมรดกโลก คิดเพลินๆก็ถึง อลังการรีสอร์ท 4 ดาว บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ที่งดงามไปด้วยสวนสวยแบบธรรมชาติ และสายน้ำฝายน้ำล้นเสนาะหู

บริการฟรี !  FREE WIFI ภายในห้องพักและบริเวณทั่วไปของรีสอร์ท  Santi Resort & Spa

12.30 อาหารกลางวัน แบบชาวลาว ส้มตำลาวแท้ๆๆ หอมกรุ่นด้วยข้าวเหนียว ไก่ทอด และ เฝอลาวแสนอร่อย ไก่ หมู เนื้อ มีให้ครบเลือก พร้อมผักสดปลอดสารพิษ

14.00 หลังอาหารกลางวัน  แต่งกายแบบสุภาพ หญิงกระโปรงคลุมเข่า เสื้อแขนสั้น ทรงสุภาพ นำท่านเดินทาง เข้าสู่ตัวเมือง เพื่อเข้าชมสถานที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์ พระราชวัง ที่เป็นที่ประทับของอดีต เจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้ายของลาว  เดินสบายๆจากท้ายวัง ลัดเข้าประตู วัดคู่บ้านเมือง วัดใหม่สุวันพูมาราม ซึ่งเคยเป็นที่พระทับของพระสังฆราชา แห่ง ราชอาณาจักรลาว มีศิลปะลวดลายของจิตรกรรมผนังโบสถ์ที่งดงาม และ องค์พระพุทธรูป แบบสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ ที่พระพักตร์อิ่มเอิบ ส่งรอยยิ้มเมตตา ให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน  

17.00 ได้เวลาอันสมควร นำท่านมายังถนนหน้าวัง เพื่อเดินทางขึ้นสู่ พระธาตุพูสี ที่กล่าวกันว่า ถ้าไม่ได้ขึ้นไป เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง ด้วยบันได 338 ขั้น ที่ทอดยาว เป็นระยะๆแบบเดินสบาย และ อากาศที่เย็นสบายๆ จะทำให้ท่านเพลิดเพลิน ไม่เหนื่อยล้า และชมวิวความงดงามในแต่ละมุม ที่มองลงมา / ณ บนยอกภู จะเป็นที่ตั้งแห่งองค์พระธาตุ ที่เคารพนับถือกันมานานกว่า 200ปี และนอกจากนั้น ณ ที่นี้ ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยว นิยมขึ้นมาชมแสงสุดท้ายแห่งวัน ที่งดงาม ยามลับเหลี่ยมขุนเขา

วันนี้ถือว่าเป็น วันแรกของปี  จะมีชาวลาวออกมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก ก่อนเข้าสู่วันปีใหม่ ลาว ในวันรุ่งขึ้น อาจมีการเล่นน้ำกันตามประเพณี

18.00 อาหารค่ำวันนี้ ต้อนรับท่านด้วย Royal Dinner ณ ห้องอาหารเจ้าหญิง ซึ่งอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระชายา ขององค์รัชทายาท (ปัจจุบันเป็นของเจ้าหญิงเชื้อพระวงศ์)

05.30 ปลุกท่านตื่นรับอรุณ เพื่อ รับอรุณรุ่งของปีใหม่ นำท่านออกเดินทางไปร่วมทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งได้จัดสถานที่และข้าวเหนียว พร้อมที่นั่ง ณ บริเวณด้านหน้า อาคาพระตำหนักเก่า วิลล่าสันติโฮเตล ซึ่งจะมีพระสงฆ์ และ เณร มากกว่าร้อยรูป ออกเดินรับบาตร เป็นประจำทุกเช้า ที่เป็นประเพณีสืบทอดกันมาช้านานกว่า 200ปี การตักบาตรข้าวเหนียว จะหยิบข้างเหนียวเพียงปลายนิ้วใส่ลงในบาตร โดยไม่นิยมใส่อาหารอะไรลงไปในบาตร อาหารคาวหวาน ชาวบ้านจะนำไปถวายที่วัดอีกครั้ง

06.30 หลังตักบาตร นำท่านไปยังตลาดเช้า เรือเมล์ริมแม่น้ำโขง ตลาดโบราณของชาวหลวงพระบาง ที่จะมีสินค้าสด ของพื้นบ้าน ของชาวเขา อาหารสำเร็จรูปให้ทดลองชิมทาน หลากหลายวิถีบนเส้นทางตลาดแห่งนี้ ที่สะอาดสะอ้าน เดินได้อย่างสบายใจ หรือจะแวะจิบกาแฟประชานิยม พร้อม ข้าวจี่แซนวิส อาหารเช้าชาวลาว ผสมผสาน ความเป็นฝรั่งเศส ที่น่าเอร็ดอร่อย แต่แคโรรี่สูง ปรี๊ดๆๆ ที่ช่วยเติมพลังให้ท่านได้ตลอดทั้งวัน

07.30 เดินทางกลับที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารทอแสง จัดเตรียมไว้พร้อมให้เลือกแบบนานาชาติ พร้อมกาแฟสดจากลาว และ Homemade bakery จากครัว สันติรีสอร์ท พร้อมสลัดผักน้ำแสนสะอาดปลอดมลพิษ กับ น้ำสลัด France  Dressing signature ของรีสอร์ทแห่งนี้

09.00 พร้อมกันที่ ล๊อบบี้ เพื่อนำท่าน ไปร่วมงานบุญปีใหม่กับพี่น้องชาวลาว ในเขตเกาะกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำโขง ตัดกับ แม่น้ำคาน  2 สายเลือดที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์แห่งอดีตราชธานีแห่งนี้ ระหว่างการเดินทางจะได้ชม กิจกรรมชาวเมือง ในวันขึ้นปีใหม่ ที่แต่งกายตามประเพณีอย่างสวยงาม วันนี้การเดินทางหลายจุดอาจจำเป็นต้องจอดรถไกล เพื่อให้ท่านเดินเข้าสู่บริเวณสถานที่ต่างๆได้ง่ายขึ้น

วัดพระธาตุหมากโม หรือ วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ มีการ ปฏิสังขรณ์ อีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน

วัดแสนสุขขารมย์ วัดเก่าแก่ สร้างใน คริสต์ศตวรรษที่ 15 จิตรกรรมภาพวาด มีลักษณะ คล้ายคลึงกับจิตรกรรมภาพวาด ของช่างสกุลชาวน่าน  ภายในวัดหลายแห่งของจังวัดน่าน และเชื่อว่ามีความผูกพันของชนเผ่าโยนก ปัจจุบัน เมืองน่าน และ หลวงพระบาง ได้ถูกจัดให้เป็นเมืองคู่แฝด

วัดเซียงทอง วัดสวยงามที่สุด ที่ต้อง ห้าม พลาด ชมพระม่าน ในโบสถ์เล็ก (จะมีช่องเล็ก ๆ ให้ทุกคน หรี่ตาข้างหนึ่งจึงจะเห็น) พระม่าน หนึ่งปีจะอันเชิญ แห่รอบเมืองหลวงพระบาง ในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ลาว เพื่อให้ประชาชนสักการบูชาอย่างใกล้ชิด หากยังไม่จุใจ ไปอุ้มพระเสี่ยงทาย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ หอพระม่าน ก็ลองอธิฐานเสี่ยงทายกัน หลายท่านพิสูจน์แล้ว ว่าแม่นจริงๆ ไม่เชื่อลองตั้งใจ พิสูจน์ได้ด้วยตัวของท่านเองครับ ณ สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นที่เก็บ ยานราชรถพระเมรุมาศ ที่ใช้ถวายพระศพ เจ้ามหาชีวิตอีกด้วย  และนอกจากนี้ วัดเซียงทอง ยังเป็นที่ของคู่แต่งาน ที่จะแต่งตัวเต็มตามประเพณี เพื่อมาสักการะพระพุทธรูป และ ถ่ายรูปทำ Pre wedding / ในวันนี้ ภายในวีด อาจจะมากมายไปด้วยชาวลาว ที่เดินทางเข้ามาเพื่อทำบุญ ในวันปีใหม่ 

08.30 รถตู้ปรับอากาศ พร้อมผู้นำทาง driver guide รอให้บริการพาคุณ ตะลุยทัวร์ แบบไฮโซ วันนี้ทะมัดทะแมง แต่งกายร่วมสมัยนิยมไทย หรือลาว ตามสะดวกกับโปรแกรม City tour  แม่หญิงแนะนำให้นุ่งซิ่น หรือกระโปรงยาวคลุมเข่า นะเจ๋า

วัดจุมฆ้องสุรินทราราม เป็นอารามหลวงชั้นใน สร้างในปี พ.ศ.2386 ในรัชสมัยพระเจ้าสุขเกษม จุดเด่นที่ไม่เหมือนวัดใดใน หลวงพระบาง คือ มีรูปสลักลอยตัวทำจากหินทรายสีเขียวตั้งอยู่เหนือราวบันไดทางขึ้นพระอุโบสถ ทั้งสองข้างลักษณะคล้ายเทพเจ้าของจีน สูงประมาณ 50 ซม. ซึ่งพระเจ้าจักพรรดิของจีนถวายแก่พระเจ้าจันทราชแห่งนครหลวงพระบาง

วัดเซียงม่วนวชระมังคลาราม เป็นวัดอารามหลวงที่อยู่ติดกันกับวัด จุมฆ้อง สร้างโดยเจ้านายพระองค์หนึ่ง ในปี พ.ศ. 2396 ในรัชสมัยพระเจ้าจันทราช

เฮือนมรดกเชียงม่วน “บ้านไม้เก่าแก่ที่สุดในหลวงพนะบาง” เป็นเรือนไม้โบราณ อยู่ระหว่าง วัดจุมฆ้อง และ วัดเซียงม่วน ที่ยังคงเก็บรักษา ความเป็ฯรากเหง้าของเรือนโบราณ ไว้อย่างสมบูรณ์ยิ่ง

วัดใหม่สุวันพูมาราม ซึ่งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวงวัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม

พระราชวัง และ หอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาว โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ มีหอที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง

วัดเชียงทอง วัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ทั่วโลกให้เป็น “สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรล้านช้าง” เที่ยวชมและนมัสการพระประธานเพื่อความเป็นศิริมงคล วัดสวยงามที่สุด ที่พลาดไม่ได้ ชมพระม่าน ในโบสถ์เล็ก (จะมีช่องเล็ก ๆ ให้ทุกคน หลี่ตาข้างหนึ่งจึงจะเห็น) พระม่าน หนึ่งปีจะอันเชิญ แห่รอบเมืองหลวงพระบาง ในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ลาว เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาอย่างใกล้ชิด หากยังไม่จุใจ ไปอุ้มพระเสี่ยงทาย อยู่ใกล้ ๆ หอพระม่าน ก็ลองอธิฐานเสี่ยงทายกันดูนะเด้อ หลายท่านพิสูจน์แล้วจร้า ว่าแม่นจริงๆ ไม่เชื่อลองตั้งใจ พิสูจน์ได้ด้วยตัวของท่านเองค่ะ หากไม่มีสมาธิพอ เวลาเหลือช่วงเย็นอาจจะแอบมาเองอีกรอบก็ทำได้ด้วยตัวเอง

12.30 ออกเดินทางเลียบลำแม่น้ำโขง จะเริ่มเห็นหนุ่มสาวชาวลาว ออกมาฉลองศก ใหม่ กับประเพณี การรดน้ำ สาดน้ำ กันเป็นระยะๆ ระหว่างเดินทางกลับเข้าสู่ รีสอร์ท เพื่อทานอาหารกลางวัน ที่จัดเตรียมให้ ม่านแบบเต็มอิ่ม หลังจากนั้น อาจผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมสำหรับการเปียกจากสายน้ำ สงกรานต์ ปีใหม่ลาว

13.30 นำท่าน เดินทางขึ้นสู่เทือกเขาหลวงพระบาง เข้าสู่วนอุทยาน ที่สำคัญของแขวงหลวงพระบาง ที่อุดมสมบูรและเป็นแหล่งต้นน้ำ อีกแห่ง ที่ไหลลงสู่ แม่น้ำคาน ก่อน ออกสู่แม่น้ำโขง  น้ำตกกวางสี มรกต น้ำตก แห่ง หลวงพระบาง ที่สายน้ำเป็นสีเขียวครามใส ราว มรกตในแอ่งน้ำ ที่อนุญาต ให้ลงเล่นน้ำได้อย่างชื่นใจ คลายร้อนเดือนเมษา ณ อุทยาน แห่งนี้ ยังเป็นที่อนุบาลสัตว์ ป่าหายาก ก่อนจะส่งกลับคืนเข้าป่าลึก  อาทิ หมีควาย ที่บาดเจ็บ หรือ พลัดหลงเข้ามาในเขตรักษาพันธ์สัตว์

16.00 เดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก เพื่อพักผ่อน และเตรียมตัว รับขวัญ ปีไก่ไฟ กับประเพณี บายศรี สู่ขวัญ แบบธรรมเนียมลาว ดั้งเดิม ณ เฮือน กินรี ริมบึงบัว หรือ ห้อง พิฆเนศ พร้อมอาหารค่ำและการแสดง ณ ห้องอาหารทอแสง  ต้อนรับวันปีใหม่

07.00 อาหารเช้า ที่ห้องอาหาร ทอแสง ของรีสอร์ท เติมพลังให้เต็มที่ พร้อมออกรับความสนุก ในวันที่ร้อนสุดแห่งปี กับการเล่นน้ำ ก่อเจดีย์ทราย กลางดอนมงคล  ชมขบวนแห่ สรงน้ำพระบาง และ ไปไหว้ฟ้าดิน เอามงคลสู่ตัวที่ ถ้ำติ่ง

08.30 ช่วงเช้าในเมืองยังไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่น่าสนุก นำท่านออกนอกตัวเมืองเลียบแม่น้ำโขง ระยะทาง 25 กิโล ไปยัง ถ้ำติ่ง สถานที่ไหว้ฟ้าดิน ของราชวงศ์ ลาว ในอดีต เมื่อขึ้นครองราชย์ หรือ พิธีการพิเศษ เชื่อกันว่า ณ ที่แห่งนี้ อยู่บริเวณ สามเหลี่ยม แม่น้ำโขง เป็นที่สถิตของพญานาคราช และ เหล่าทวยเทพ ราที่มีทุกข์ร้อน สามารถนำพระประจำวันเกิด มาถวายเป็นสิงบูชาเพื่อขอพรและสะเดาะเคราะห์ ภายในถ้ำตอนบน จะมีองค์พระพุทธรูปในปางต่างๆ ถูกจัดวางเรียงรายไว้อย่างนับไม่ถ้วน หากเดินขึ้นบันได ไปอีก สองร้อยกว่าขั้น จะเจอเจดีย์ ที่เชื่อว่า เป็นของพระเกจิกอาจารย์ ของลาว

ในช่วงเดินทางกลับ จะแวะ หมู่บ้านชน เผ่า ซางไฮ่ ที่มีวิถีของชนเผ่า ในการดำรงชีพ กับอาชีพยอดฮิต คือการต้มเหล้า จนถูกขนานนามว่า หมู่บ้านต้มเหล้า

12.00 เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมือง วันนี้ รถอาจจะไม่สามารถบริการท่านได้ถึงบริเวณด้านหน้าห้องอาหารของโรงแรม ในเมือง อาจจอดรับส่งบริเวณ ริมแม่น้ำโขง และ นำท่านเดิน เข้าสู่ห้องอาหาร เจ้าหญิง เพื่อทานอาหารกลางวัน และ ร่วมชม ขบวนแห่พระ และ นางสังขาร ที่จะผ่านบริเวณ ด้านหน้า โรงแรม

หลังอาหาร ปล่อยให้ท่านอิสระกับการเล่นน้ำ บริเวณ ด้านหน้า วิลล่า สันติ โฮเตล ในช่วงเย็นๆ จะนำท่านไปยังบริเวณ ดอนทรายมงคล ที่รวมตัวของ ชายหนุ่ม หญิง สาว มาก่อพระเจดีย์ และ เล่นน้ำ บริเวณ กลาง แม่น้ำโขง การลงบริเวณ ดอนทรายมงคล หากไม่สะดวก และ ไม่ปลอดภัย ทัวร์รีดเตอร์ และ ไกด์ อาจ ให้ท่านยืนชมอยู่แค่บนตลิ่งเท่านั้น

17.00 นำท่านเดินทางกลับที่พัก เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และ ทานอาหารค่ำ ณ รีสอร์ท 

19.00 นำท่านเข้าสู่ตัวเมือง ให้ท่านอิสระ กับ ตลาดมืด ในคืนวันปีใหม่ ที่จะมีชาวหลวงพระบาง และ ชนเผ่า ต่างๆ เดินกันขวักไขว่ ณ ถนนคนเดิน ตลาดมืดแห่งนี้

22.00 นำท่านกลับสู่ที่พัก สันติรีสอร์ท เพื่อการพักผ่อนอย่างมีความสุข กับ ธรรมชาติ ภายในรีสอร์ท

07.00 อิสระตามอัธยาศัย จนถึงเวลา เช็คเอาท์  อาหารเช้า ณ ห้องอาหาร ทอแสง

11.00 เช็คเอาท์ พร้อมเดินทางออกจากโรงแรม ไปยัง สนามบินสากล หลวงพระบาง เพื่อเช็คอินQV 102 LPQ-VTE เดินทางเข้าสู่ นครหลวงเวียงจันท์

13.05 ออกเดินทางสู่นครหลวงเวียงจันท์ ด้วยเครื่องบิน ของสายการบินแห่งชาติลาว ที่สะดวกสบาย

13.50 เดินทางถึงสนามบินสากล วันไต ซึ่งขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงและสร้างอาคารเชื่อมต่อระหว่าง Inter และ Domestic อาจจะขลุกขลัก ในการรับกระเป๋าบ้าง แต่ก็ราบรื่น สยายสบาย ตามสไตล์ลาว วันนี้อาจรับประทานอาหารกลางวันช้ากันสักนิดนะครับ

14.00 เจ้าหน้า พร้อมรถคู้รอให้การบริการ นำกระเป๋าขึ้นรถ ออกเดินทางเข้าสู่ นครเวียงจันท์ ประมาณ 45นาที เพื่อนำท่านไปยัง โขงวิว ภัตตาคาร ริมแม่น้ำโขง  เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน Quick lunch

หลังจากนั้น นำท่านไปยัง พระธาตุหลวง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพของประชาชน ทั้งสองฝั่ง ไทย-ลาว เชื่อว่ามีพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุอยู่ ในทุกปีจะการจัดงานสมโภช ช่วงเดือน ธันวาคม ของทุกปี

หอพิพิธภัณฑ์ พระแก้ว ที่เคยเป็นที่ประดิษฐาน ขององค์พระแก้วมรกต ก่อนที่รัชกาลที่ 1 จะ อัญเชิญ มายัง กรุงเทพ มหานคร เมื่อ 250ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบัน ภายในหอ เก็บภาพ และ องค์พระแก้ว มรกตจำลอง

ประตูชัย สัญลักษณ์  ความผูกพัน กับฝรั่งเศส ที่เคยครอบครอง เป็นสถาปัตยกรรม แนวเรอนิซองสิ์  ตั้งอยู่กลางจัตุรัส ใกล้อาคารรัฐสภา  สารธารณรัฐประชาชนลาว

16.30 เดินทางกลับมาที่ถึงสนามบินสากล วันไต เพื่อเช็คอิน เที่ยวบิน QV 445 VTE-BKK เดินทางกลับสู่กรุงเทพ มหานคร

18.05 สายการบินแห่งชาติลาว เที่ยวบิน QV445 นำท่านเหินฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมอาหารค่ำ เสริฟร้อนกรุ่น และ เครื่องดื่ม ระหว่างเที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30ชั่วโมง

19.40 เดินทาง ถึง สนามบิน นานาชาติ สุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ด้วยความสวัสดิ์ภาพ